อลเวงหวย 12 ล้าน อดีตตำรวจแจ้งความเจ้าของร้านลาบ อ้างฝากหวยไว้ 1 ใบ ไม่ได้ให้เพราะเซ็นบ่อย แต่บอกถ้าถูกจะแบ่งคนละครึ่ง
จากกรณี นางบุญล้อม หรือ ยายแหล่ อายุ 68 ปี เจ้าของร้านลาบก้อยยายแหล่ ใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถูกลอตเตอรี่หมายเลข 807779 งวดวันที่ 17 ม.ค. 68 ได้เงินรางวัล 6 ล้านบาท อ้างว่าลอตเตอรี่ใบนี้ ผู้กองเข้มนำมาใช้หนี้ติดค่าลาบก้อย 120 บาท ก่อนนำมาขึ้นเงินรางวัลที่ร้านทองแห่งหนึ่ง อ.ธาตุพนม ขณะที่ผู้กองเข้ม ได้นำสลากที่ถูกรางวัลมาขึ้นเงินที่ร้านทองเดียวกันนั้น
คืบหน้าวันที่ 21 ม.ค. 2568 ผู้กองเข้ม อายุ 65 ปี อดีตตำรวจ ตชด.235 นำหวยที่ซื้อ 7 ใบในจำนวน 9 ใบที่สลักหลังชื่อเข้มมาโชว์ให้ผู้ดู พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้ไปซื้อลอตเตอรี่กับแม่ค้าเร่ขับ จยย.มาขายให้ที่บ้านหนองหอย ซื้อทั้งหมด 9 ใบเป็นเลขชุด 2 ใบเลขเดี่ยว 1 ใบ เป็นเงิน 900 บาท ในจำนวนนี้มีถูกรางวัลที่ 1 รวม 2 ใบมูลค่า 12 ล้านบาท ตรวจดูวันประกาศผลรางวัลในแอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์ช่วง 5 โมงเย็นจึงรู้ว่าถูกได้โชคก้อนใหญ่ จึงรีบนำลอตเตอรี่ที่ถูก 1 ใบมาแจ้งความไว้ที่ สภ.ธาตุพนม เพื่อเป็นหลักฐาน
ผู้กองเข้ม กล่าวต่อว่า พอไปแจ้งความร้อยเวรบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกรางวัลที่ 1 มาแจ้งความเช่นกัน ข้อเท็จจริงตนไม่ได้นำหวยหมายเลข 807779 ไปจ่ายหนี้แทนค่าลาบก้อย 120 บาทตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ วันที่ 17 ม.ค.68 ช่วงบ่าย 2 โมงครึ่งวันหวยออก ตนนั่งกินอาหารอยู่ที่ร้านลายก้อยยายแหล่ พบเห็นลอตเตอรี่ที่นำมาโชว์ ยายแหล่ถามว่ามีเลขอะไรบ้าง
ตนจึงบอกยายแหล่ไปว่ามีเลขท้าย 79, 97 ยายแหล่บอกเลขสวยจัง ยายแหล่จึงขอซื้อตน 1 ใบ จึงบอกกลับไปว่าไม่ต้องซื้อหรอก ตนจึงให้ไป 1 ใบติดกับที่แนบเขียนว่า 12 ล้าน ตนบอกว่าไม่ต้องซื้อจึงดึงแบ่งฉีกใบที่อยู่ด้านบนให้ 1 ใบ แล้วบอกยายแหล่ไม่ขายหรอก แต่ฝากไว้ถ้าถูกรางวัลให้แบ่งกันคนละครึ่ง
คือจุดประสงค์ที่มาชี้แจงวันนี้ เขาไปแจ้งความก่อนแต่ตนไปแจ้งความตามหลังเขา ตนจึงไปพร้อมกับร้อยเวรที่รับแจ้งไปขึ้นเงินที่ร้านทองแห่งหนึ่งช่วง 5 โมงวันหวยออก ลอตเตอรี่ที่ฝากยายแหล่ไว้ ก่อนหน้านี้มีการตกลงต้องแบ่งครึ่งคนละ 3 ล้าน แต่ช่วงเช้าวันที่ 18 ม.ค.68 ตนไปพบยายแหล่ที่บ้าน เพื่อจะเอาเงิน 3 ล้านส่วนนี้ แต่ยายแหล่บอกจะเอาเงิน 1 ล้านบาทไปตั้งกองกฐิน
ยายแหล่รับปากบอกจะแบ่งเงิน 2 ล้านบาทให้กับตน จึงไปกับเพื่อนทวงถามที่บ้านยายแหล่ก็ไม่พบ จึงต้องออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้เวลา 18.30 น. วันที่ 20 ม.ค. 2568 ตนเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ธาตุพนม เพื่อแจ้งจับยายแหล่ข้อหายักยอก หากยายแหล่นำเงิน 2 ล้านมาแบ่งตามที่ตกลงกันไว้จึงจะถอนแจ้งความ
- อ่าน อดีตตำรวจ มานั่งกินลาบก้อย เซ็นบ่อย แบ่งหวยให้เจ้าของร้าน 1 ใบ สุดเฮงถูกรางวัลที่ 1
ขณะที่ นายเกรียงไกร ศักดิ์ดี อายุ 68 ปี ที่ปรึกษา สว. กล่าวว่า ผู้กองเข้มมาปรึกษาตนบอกว่าได้ฝากลอตเตอรี่ไว้กับยายแหล่ ไหว้วานให้ตนไปไกล่เกลี่ยกับยายแหล่ให้ด้วย ไปที่ร้านลาบก้อยแล้วแต่ไม่พบ ก็ตามไปที่บ้านโคกสว่าง
กระทั่งเจอยายแหล่กับหลานสาว พูดไกล่เกลี่ยกับยายแหล่อยากได้เงินครึ่งหนึ่งคือ 3 ล้านที่ตกลงกันไว้ ยายแหล่บอกว่า 1 ล้านจะไปทำบุญตั้งกองกฐิน จึงเปิดโฟนให้ผู้กองเข้มฟังว่ายายแหล่จะแบ่งให้ 2 ล้านซึ่งตกลงกันแล้ว นัดกันวันนี้จะมาจ่ายที่หน้าร้านทองโดยมีร้อยเวรจะมาเป็นพยานด้วย นัดจ่ายกัน ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลายายแหล่หายตัวไปเลย ไม่มาตามนัด
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ร้านลาบก้อยยายแหล่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง พบว่าร้านปิด แต่พบญาตินั่งอยู่หน้าบ้านและหน้า 3 คน ญาตินางบุญล้อมคนหนึ่งกล่าวว่า ยายแหล่ไปอิตาลี หลังไปขึ้นเงินรางวัล 6 ล้านบาท ทราบว่าเบิกเงินสดมา 9-4 แสนบาท หลังถูกหักเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเงิน 6 หมื่นบาท เช้าตรู่วันที่ 18 ม.ค.68 พบผู้กองเข้มและเพื่อนมาพบที่ร้านลาบ แต่ตนไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน
ระหว่างผู้กองเข้มกล่าวชี้แจง เพื่อน ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ ได้นำหนังสือบันทึกประนีประนอม มาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย และมีชายคนหนึ่งเดินไปที่รถฟอร์จูนเนอร์ที่ผู้กองเข้มนั่งอยู่ พร้อมต่อว่ าผู้กองเข้มว่าให้นำเงินที่ถูกรางวัลไปใช้หนี้สินคนอื่นที่ยืมมาด้วย แต่เพื่อนผู้กองเข้มยื่นเงิน 500 บาทให้ แต่ชายคนดังกล่าวไม่เอา อ้างมามีคนเข้าฝากมาถาม