กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ร่วมการจับกุม นายสมพรฯ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดตรังที่ จ.63/2567 ในความผิดฐาน กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีเพื่อการอนาจาร, พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2567 ช่วงเที่ยง ขณะที่เด็กหญิงบี(นามสมมุติ) วิ่งเล่นอยู่หลังบ้านติดสวนยาง นายสมพรฯ (ผู้ต้องหา) ได้กวักมือเรียกให้ไปหาในสวนยางและผลักเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) จนล้มลง แล้วลงมือกระทำชำเรา จากนั้นข่มขู่ไม่ให้บอกใคร เด็กหญิงบี(นามสมมุติ) จึงไม่กล้าบอกใคร ต่อมา วันที่ 15 มกราคม 2567 ช่วงเย็น เด็กหญิงบี(นามสมมุติ) เจอนายสมพรฯ อีกครั้งที่ถนนหน้าบ้าน
นายสมพรฯ ก็เรียกเข้าไปหาและจูงมือเข้าไปในป่าปาล์ม และกระทำชำเราอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เด็กหญิงบี (นามสมมุติ) ได้ร้องให้คนช่วย นายสมพรฯ จึงหยุดและให้เงิน 100 บาทเพื่อไม่ให้บอกใคร แต่เด็กหญิงบี (นามสมมุติ) ได้ร้องไห้วิ่งกลับไปบอกย่า จึงได้พากันเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน และเอาผิดกับนายสมพรฯ ให้ถึงที่สุด แต่นายสมพรฯ ไหวตัวทันและได้หลบหนีไปได้ก่อน ภายหลังได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับนายสมพรฯ ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.6 บก.ปคม.ได้รับทราบหมายจับแล้วได้ติดตามหาข่าวนายสมพรฯ มาโดยตลอด จนกระทั่ง ได้ทราบข่าวจากสายลับว่านายสมพรฯ หลบซ่อนตัวอยู่ในสวนยางหลังบ้านหลังหนึ่งใน ม.4 ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้ดำเนินการจับกุมทันที
เจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ปคม.จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบและได้จึงพบนายสมพรฯ อยู่ในสวนยางจริง เมื่อนายสมพรฯ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ายาง แต่ไม่พ้นจากการจับกุมได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและแสดงหมายจับให้ นายสมพรฯ ได้ดูและอ่านจนเข้าใจแล้วรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้นายสมพรฯ ทราบ และนำตัวส่ง สภ.เมืองตรัง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน