หนุ่มมอบตัวแล้ว ตีหัวเมียเก่า-แม่ยาย อ้างตกงาน ระแวงมีชู้เพราะแต่งตัวสวยไปทำงานนอกบ้าน รับโพสต์จริงข่มขู่เอาชีวิต แต่ไม่คิดจะก่อเหตุจริงๆ ยังรักอยู่
จากเหตุการณ์ น.ส.สุจิตรา อายุ 31 ปี ถูก นายธนกฤต อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นอดีตสามีอยู่กินกันมา กว่า 2 ปี โดยมีลูกติดฝ่ายหญิงจำนวน 2 คน ตลอดระยะเวลาที่อยู่กินกันมามีปากเสียงกันบ่อยครั้ง จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 67 ฝ่ายหญิงถูกตีด้วยสากและแก้ว อีกทั้งแม่ของ ฝ่ายหญิงเข้าห้ามปราบก็ได้รับบาดเจ็บไปด้วย และทั้ง 2 จึงไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว
ต่อมา น.ส.สุจิตรา ได้อาศัยรถบรรทุกน้ำมันของคนใกล้บ้าน ขึ้นมายังกรุงเทพฯมาพบกับ “กัน จอมพลัง” พร้อมนำคลิปเหตุการณ์ที่ทะเลาะตบตีกันมาเป็นหลักฐาน เพื่อร้องขอให้ช่วยเหลือเนื่องจาก ถูก นายธนกฤต อดีตสามี ข่มขู่จะทำร้ายทั้งตนและครอบครัว
ล่าสุดวันที่ 18 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.สืบสวน สภ.ปะทิว พร้อมกำลังหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปะทิว จ.ชุมพร จำนวน 4 คน นำหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ลงวันที่ 16 มกราคม 68 ที่ จ.21/2568 เดินทางไปรับตัว นายธนกฤต บริเวณศาลาของโกดังแห่งหนึ่ง พื้นที่ จ.สมุทรสาคร หลังได้ติดต่อขอมอบตัว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี ในข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจและลักทรัพย์ โดยคุมตัวได้วันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา
จากนั้นได้ควบคุมตัว นายธนกฤต มา สภ.ปะทิว เพื่อจะสอบปากคำในเบื้องต้น นายธนกฤต เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาจริง ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ในส่วนที่ทำร้ายลูกเลี้ยงนั้น ตนเองขอปฏิเสธ และส่วนที่แม่อดีตภรรยา ได้แจ้งความและให้ข่าวนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้าย แต่ขณะที่ตนทะเลาะกับอดีตภรรยา พลาดท่าไปถูกอดีตแม่ยายที่เข้ามาห้ามแค่นั้น ไม่ได้จงใจที่จะทำร้ายโดยตรง
นายธนกฤต บอกว่า การที่ตนเองทะเลาะ ประเด็นมาจากตนตกงาน ไม่มีงานทำหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว จนทำให้เกิดความระแวงและหึงหวงตัวอดีตภรรยา ซึ่งมักแต่งตัวสวยไปทำงานนอกบ้าน หลังจากเกิดเหตุรุนแรงจนต้องหนีจากบ้านออกมานั้น ก็ไม่ได้คิดว่าจะลักรถจยย.แต่อย่างใด เพราะคิดว่าตนก็มีสิทธิในรถจยย.เช่นกัน เพราะตนก็เคยช่วยผ่อนรถอยู่หลายงวด และตนก็ได้ส่งรถกลับคืนมาให้หลังจากที่เอาไปไม่กี่วัน
ส่วนในเรื่องของการโพสต์ข่มขู่นั้น ยอมรับว่าโพสต์ทุกครั้งที่ทะเลาะกันและไม่ได้คิดว่าจะลงมือทำจริง ๆ เพราะตนก็รักฝ่ายหญิง และไม่ได้อยากจะทำร้าย ที่ผ่านมาก็ยังติดต่อกันกับอดีตภรรยาตลอดและเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังออกไปหาเจอกันด้วย ที่ อ.ท่าแซะ แต่ไม่คิดว่า จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนจึงขอความเป็นธรรม ในบางเรื่องที่ถูกกล่าวหา และยอมรับผิดที่ทำไปในเรื่องที่ตนเองกระทำจริงอย่างสำนึกผิด
ต่อมาทาง พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.สืบสวน สภ.ปะทิว ได้นำตัวเข้าไปภายในห้องเพื่อสอบปากคำในเบื้องต้น ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปะทิว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป