ดาร์วิน นูนเญซ สวมบทฮีโร่หลังเหมาคนเดียว 2 ประตูช่วงทดเจ็บพา ลิเวอร์พูล บุกชนะ เบรนต์ฟอร์ด 2-0 เก็บชัยในพรีเมียร์ลีกปี 2025 เป็นนัดแรก
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เมื่อวันที่ 18 ม.ค. “ผึ้งน้อย” เบรนต์ฟอร์ด เปิดสนาม จีเท็ก คอมมิวนิตี สเตเดียม รับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล
เกมนี้เจ้าบ้านจัด มิกเคล แดมสการ์ด, ไบรอัน เอ็มโบโม และโยอัน วิสซาลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนใช้งาน โคดี กักโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และหลุยส์ ดิอาซ
ครึ่งแรก
เกมในช่วงครึ่งแรกเป็น ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ดีกว่าชัดเจนทั้งการครองบอล รวมถึงจังหวะจบสกอร์ทว่ายังไม่สามารถเจาะประตู เบรนต์ฟอร์ด ได้โดยโอกาสที่ใกล้เคียงสุดคือการยิงชนคานของ โดมินิก โซโบสไล นาที 35 และลุกหลุดเดี่ยวแต่ยิงหลุดกรอบเหลือเชื่อของ โคดี กักโป นาที 39 ทำให้จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง
เข้าสู่ครึ่งหลังยังเป็น ลิเวอร์พูล ที่ครองเกมได้ดีกว่าชัดเจนทว่ายังขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์ กระทั่งนาที 90+1 ทีมเยือน มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ จ่ายทะลุช่องให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เข้ากรอบเขตโทษฝั่งขวาโดยจังหวะแรกเจ้าตัวเปิดติดแข้ง เบรนต์ฟอร์ด หนึ่งจังหวะก่อนจะตามไปเปิดอีกครั้งให้ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยืนอยู่ชาร์จจ่อๆ ไม่พลาด
Liverpool’s Darwin Nunez partially obscured at center scores his side’s second goal during the English Premier League soccer match between Brentford and Liverpool at the GTech Community Stadium in London, Saturday, Jan. 18, 2025. (AP Photo/Kirsty Wigglesworth)
นาที 90+3 ลิเวอร์พูล มาทิ้งห่าง 2-0 จากจังหวะสวนกลับแล้วเป็น ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เลี้ยงจี้มาถึงหน้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายให้ ดาร์วิน นูนเญซ แตะหลบ มัดส์ เรอร์สเลฟ ก่อนซัดด้วยขวาแสกหน้า มาร์ก เฟล็กเคน แบบเฉียบคม ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้
Liverpool’s Darwin Nunez celebrates after scoring a goal during the English Premier League soccer match between Brentford and Liverpool at the GTech Community Stadium in London, Saturday, Jan. 18, 2025. (AP Photo/Kirsty Wigglesworth)
จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ “หงส์แดง” ซึ่งเก็บชัยในลีกนัดแรกปี 2025 มีเพิ่มเป็น 50 คะแนนจาก 21 นัดยังนำจ่าฝูง และทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างอาร์เซนอล 7 คะแนนในจำนวนนัดเท่ากัน ส่วน “ผึ้งน้อย” หยุดอยู่ที่ 28 คะแนนจาก 22 นัดอยู่อันดับ 11 ตาราง
ผลการแข่งขันคู่อื่นๆ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-4 บอร์นมัธ
เลสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ฟูแลม
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-2 คริสตัล พาเลซ