วันที่ 8 ก.ค. 2568 น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ เห็นชอบโครงการลงทะเบียนเพื่อสำรวจประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสำรวจประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน
นอกจากนี้ครม. มีมติมอบให้กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) หารือเพื่อกำหนดระยะเวลาการดำเนินโครงการที่เหมาะสมต่อไป
สำหรับโครงการนี้ เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ครม.สืบเนื่องจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งมีการใช้ข้อมูลที่ได้จากการลงทะเบียนในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน ตลอดจนแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการ ไม่ว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ หรือ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ซึ่งใช้การลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ผ่านสมาร์ทโฟน
แต่การดำเนินการที่ผ่านมา ยังไม่มีข้อมูลของประชาชนกลุ่มเปราะบางบางกลุ่ม รวมถึงประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ทำให้ไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน หรือ มีข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งส่งผลให้ภาครัฐไม่สามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนผ่านโครงการต่างๆ ของภาครัฐทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงมีมติเห็นชอบหลักการของโครงการลงทะเบียนเพื่อสำรวจประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ในครั้งนี้ขึ้น และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินโครงการต่อไป เพื่อให้กลุ่มดังกล่าว เข้าถึงสิทธิ์สวัสดิการจากรัฐได้อย่างเท่าเทียมกับประชาชนกลุ่มอื่นๆ
ส่วนช่องทางและวิธีการลงทะเบียน จะดำเนินการผ่านธนาคารของรัฐและช่องทางอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นธกส. ธนาคารออมสิน ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเขต ที่ทำการไปรษณีย์ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ของรัฐอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้ลงลงทะเบียนผ่านระบบที่ได้พัฒนาขึ้น
วิธีการตรวจสอบความไม่มีสมาร์ทโฟน ก็จะให้ สพร. ส่งเลขประจำตัวประชาชนไปตรวจสอบกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยผู้มีประวัติการใช้งานข้อมูลอินเตอร์เน็ตสะสมไม่เกิน 500 เมกะไบต์ต่อหมายเลขโทรศัพท์ย้อนหลังในช่วงเวลา 90 วัน จะถือว่าเป็นผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน
ทั้งนี้ ระยะเวลาการตรวจสอบ จะประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งโครงการนี้ จะทำให้รัฐบาลมีข้อมูลของประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน อาจจะเข้าไม่ถึงการดำเนินการนโยบายของรัฐ ที่รัฐต้องการจะช่วยเหลือประชาชนและกำหนดให้ใช้แอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างประโยชน์แล้วก็มีประสิทธิภาพ